ป้องกันและดูแลตัวเองจากอาการ ฮีทสโตรก

ช่วงนี้มีการเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง ซึ่งมีคนไปเข้าแถวรอจำนวนมาก บางช่วงอาจต้องรอกลางแจ้งร้อนๆ เป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดอาการ ฮีทสโตรก ได้ จึงขอนำวิธีการป้องกันและดูแลตัวเองมาฝาก

ป้องกันและดูแลตัวเองจากอาการ ฮีทสโตรก

ฮีทสโตรกหรือโรคลมแดดเกิดจากการที่ร่างกายอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อุณหภูมิสูง และได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติของสมองในส่วนการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมอง

สัญญาณเตือนฮีทสโตรก

ไม่มีเหงื่อออก แม้อากาศจะร้อน (ต่างจากการเพลียแดดทั่วไป ที่ร่างกายต้องระบายความร้อนออกมาทางเหงื่อ)
หน้าแดง ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ
กระหายน้ำมาก
วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน
หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็วแต่แผ่วเบา
เกร็งกล้ามเนื้อ ชัก รูม่านตาขยาย ความรู้สึกลดน้อยลง
ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันเวลาอาจทำให้หัวใจหยุดเต้น และถึงแก่ชีวิตได้

ใครเสี่ยงกับการเกิดฮีทสโตรก

ผู้สูงอายุ
เด็ก
ผู้ที่อดนอน
ผู้ที่ดื่มเหล้าจัด
ผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศร้อนชื้น
ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน
นักกีฬา และทหารที่เข้ารับการฝึกโดยไม่มีการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด

ฮีทสโตรก

ป้องกันโรคฮีทสโตรก

ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้าน ในวันที่มีอากาศร้อนจัด
ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน โปร่ง ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายอุณหภูมิความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้
พกน้ำดื่มติดตัวไว้ และจิบอย่างสม่ำเสมอ แม้ไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพติดทุกชนิด
เลี่ยงการอยู่ที่ที่มีแดดแรง เป็นไปได้ควรพกร่มไปด้วย เพื่อบังแดด

ปฐมพยาบาลผู้ที่มีอาการฮีทสโตรก

นำเข้าในที่ร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง
หากอาเจียนให้นอนตะแคงก่อน เมื่ออาเจียนแล้วให้นอนหงาย
คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก
ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกลำตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ เพื่อระบายความร้อน ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
ราดน้ำเย็นลงบนตัว เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลง
ให้ดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทน
รีบนำส่งโรงพยาบาล

ฮีทสโตรก