ในหลวง

คิดถึงพ่อเสมอ ในหลวง ในดวงใจของ 6 พระเอกคนดัง

Alternative Textaccount_circle
event
ในหลวง
ในหลวง

หัวใจคนไทยแตกสลาย น้ำตานองทั่วแผ่นดิน นับตั้งแต่วันที่ ในหลวง รัชกาลที่ 9 กษัตริย์ผู้เป็นที่รักของคนไทยทั่วประเทศเสด็จสู่สวรรคาลัย  

เชื่อว่าภาพความทรงจำและความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อ ในหลวง รัชกาลที่ 9 และได้รับรู้เรื่องราวของพระองค์ท่านที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทยมาตลอดระยะเวลา 70 ปีนั้น ยังคงติดตราตรึงใจและอยู่ในใจของคนไทย เช่นเดียวกับ 6 พระเอกคนดังที่จะมาเผยความรู้สึกที่มีต่อพ่อหลวง ไปฟังเสียงจากใจของพวกเขากัน

ป้อง- ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์

ในหลวง

“ตั้งแต่เกิดมาผมก็อยู่ในรัชกาลที่ 9 พอถึงวันที่ท่านไม่อยู่แล้ว ผมช็อคไปเลย เหมือนเราไม่เคยเตรียมใจกับสิ่งนี้มาก่อน ความเศร้าเสียใจมันใหญ่หลวงมาก ผมยังจำความรู้สึกในวันที่ 13 ตุลาคมปีที่แล้วได้ดี เพราะมีงานรอบกาล่าดินเนอร์ละครเวที พอรู้ข่าวก็ยกเลิกเลย ในเวลานั้นไม่มีใครมีแรงจะทำอะไร ทุกคนนิ่งเหมือนช็อครวมถึงตัวผมเองด้วย คิดในใจว่ามันเกิดขึ้นจริงเหรอ

“ผมเชื่อว่าพระองค์ท่านคงไม่อยากให้เราจมกับความเศร้า จนไม่เป็นอันทำอะไร ดังนั้นชีวิตต้องดำเนินต่อไป  สิ่งที่จะทำเพื่อพระองค์ท่านได้คือทำตามคำสอนของพ่อ ทั้งโครงการพระราชดำริของท่านมากมาย และคำสอนของท่านในเรื่องของความพอเพียง ผมเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์มา ในตำราไม่มีสอนทฤษฏีนี้นะครับ แต่สิ่งที่ท่านคิดขึ้นมาใหม่มันมีคุณประโยชน์มากกับทุกอย่างในชีวิต  คำว่าพอเพียงทุกคนต้องตีความหมายให้แตก พอเพียงในทีนี้ไม่ใช่ประหยัด ตระหนี่ แต่มันคือทางสายกลางที่ใช้ได้กับทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือจน ดังนั้น ความพอเพียงของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

“มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมจดจำไม่ลืมคือ เมื่อครั้งที่เคยถวายงานพระองค์ท่าน เนื่องจากมีการประชุม APEC มีพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศมาเยือนไทย ผมยังจำได้ว่าจับมือกับ จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช , วลาดิเมียร์ ปูติน ด้วย ในส่วนการแสดงมีการคัดเลือกดาราไปทำการแสดงถวายงานต่อหน้าพระพักตร์ มี ‘พี่นก -ฉัตรชัย’ ‘พี่ตั้ว-ศรัณยู’ ป๋อ-ณัฐวุฒิ’ และผมเป็นหนึ่งในนั้นที่ใส่ชุดไทยสมัยอยุธยา หลังจากส่งพระราชอาคันตุกะกลับไปแล้ว พระองค์ท่านทรงเดินมาพูดคุยกับทีมนักแสดง พระองค์ท่านทรงเดินมาทักทีละคนจนมาถึงผมซึ่งตื่นเต้นมากเรียกว่าเกือบลืมหายใจ ผมสัมผัสได้ถึงพระเมตตาของพระองค์ ท่านตรัสว่า ‘ชุดเหมือนในหนังสือเลยนะ’ ผมก็พูดว่า ‘ครับ’ อยากจะพูดมากกว่านี้แต่ตื่นเต้นพูดไม่ออก ที่ท่านตรัสว่าเหมือนในหนังสือน่าจะหมายถึงเครื่องแต่งกายเหมือนในประวัติศาสตร์ ผมรู้สึกเป็นบุญกับชีวิตมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสใกล้พระองค์ท่านมากขนาดนี้

เต้ย- พงศกร เมตตาริกานนท์

ในหลวง

“ผมประทับใจพระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่บอกว่า ‘ไม่ต้องจำว่าฉันคือใคร แต่จำว่าฉันทำอะไรก็พอ’  สำหรับผมยึดหลักคำสอนของในหลวงหลายๆ อย่างครับ เป็นสิ่งที่นำไปสอนให้ลูกหลานฟังได้ ผมชื่นชมพระปรีชาความสามารถในด้านการกีฬาของพระองค์ท่าน เพราะผมเล่นกีฬาหลายอย่าง พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างของการเป็นนักกีฬา ทรงรักษาความซื่อสัตย์ ทรงเคารพกฏกติกาอย่างแท้จริง เรื่องเล่าที่เราเคยได้ยินกันมาคือ การแข่งขันเรือใบ พระองค์ท่านทรงวกเรือกลับมาเพราะไปโดนทุ่นซึ่งถือว่าฟาวล์ จริงๆ แล้วไม่มีใครเห็น พระองค์ท่านจะเล่นต่อก็ได้แต่ทรงยุติการเล่น สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์กับตัวเอง

“ในด้านพระอัจฉริยภาพทางดนตรี พระองค์ท่านเล่นดนตรีได้หลายอย่างและยังทรงพระราชนิพนธ์เพลงเพราะๆ ไว้มากมาย ล้วนแล้วแต่มีความลึกซึ้ง มีคอร์ดที่ลึกมากแบบที่น้อยคนนักจะเล่นได้ ขนาดที่ว่าศิลปินต่างประเทศยังชื่นชม

“จำได้เลยว่าตอนเด็กๆ ผมอยากเล่นแซกโซโฟน เพราะเห็นพระองค์ท่านทรงแซกโซโฟนแล้วเท่มากๆ เสน่ห์ของเครื่องดนตรีชนิดนี้คือโน๊ตเพลงออกมาจากลมหายใจของเรา ฟังแล้วรู้สึกเข้าถึงบทเพลงมากๆ ภาพความทรงจำที่ทำให้ผมได้รู้สึกใกล้ชิดพระองค์ท่านก็คือรูปคุณตาตอนถวายงานในหลวง เพราะท่านทำงานในรัฐสภาจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่านบ่อยๆ

ช่วงชีวิตที่ผมเกิดมา อาจจะไม่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่เห็นพระองค์ท่านในทีวี เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ ฟังเพลงของพระองค์ท่าน กลับรู้สึกซาบซึ้งเข้าไปในหัวใจ จนต้องถามตัวเองว่าทำไมเรารู้สึกขนาดนี้ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่าน คงเป็นเพราะรู้ว่าทรงเหนื่อยและทำเพื่อคนไทยมาตลอดเวลา 70 ปี ผมเชื่อว่าในแผนที่ประเทศไทยนี้ พระองค์ท่านทรงเดินทางไปมาหมดแล้ว เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน”

 

ฌอห์ณ จินดาโชติ

ในหลวง

“ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่เกิดมาในรัชกาลที่ 9 ผมยังจำได้ว่า ช่วงชีวิตวัยเด็กในโรงเรียนของทุกคนรวมถึงผมด้วย ในห้องเรียนจะมีพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้ง 2 พระองค์ หลังร้องเพลงชาติ ทุกวันต้องร้องเพลงความฝันอันสูงสุด

“ในยุคที่ผมเกิดมาไม่ค่อยเห็นพระองค์ท่านทรงงานแล้ว แต่ผมจะได้ยินเรื่องราวการทรงงานของพระองค์ท่านผ่านคำบอกเล่าของคุณพ่อคุณแม่ และคนอื่นๆ มาตลอด ไม่น่าเชื่อว่าคนร้อยคนสามารถเล่าเรื่องออกมาเหมือนกันได้ อีกภาพหนึ่งที่จำติดตาคือทุกวันที่ 5 ธันวาคม พระองค์ท่านจะมีพระราชดำรัสกับพสกนิกรทั่วประเทศ พอท่านตรัสเสร็จทุกคนที่บ้านผมก็กราบตรงพื้นบ้าน มันเป็นภาพที่อบอุ่นและฝังอยู่ในใจเสมอ

“เราจะไม่มีทางรู้หรอกครับว่าเราโชคดีมากแค่ไหนจนมีคนอื่นมาบอก มีครั้งหนึ่งที่ผมเดินทางไปประเทศเวียดนาม และต้องไปแลกเงินแบงค์พัน ปรากฏว่าพนักงานพูดกับผมว่าให้เก็บเงินไว้เถอะ นี่เป็นลัคกี้แบงค์ของคุณเพราะมีในหลวงอยู่ มันจะหาไม่ได้อีกแล้ว รู้สึกว่าจุกเหมือนกันนะ เพราะเขารู้เรื่องในหลวงสวรรคต โอ้โห! คนต่างชาติยังเห็นพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านขนาดนี้

“อีกครั้งหนึ่ง ผมเดินทางไปภูเขาไฟโบรโม่ ประเทศอินโดนีเซีย มีทหารเรือขอมาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกับพวกผมด้วย เขาบอกว่ารักในหลวงมากเพราะเคยถวายงานพระองค์ท่านและเคยเป็นทหารเรืออยู่เมืองไทยมาก่อน เขาพูดกับผมว่า ‘Sorry for your King’ ผมอึ้งมาก มันมีหลายความรู้สึก ทั้งภูมิใจ เสียใจ และตื้นตัน จากนี้ไปถ้ามีลูกก็จะบอกลูกบอกหลาน ว่าการเป็นคนไทยโชคดีขนาดไหน เรามีกษัตริย์ที่ดี พระองค์ท่านได้ปูทางมาให้หมดแล้ว จากนี้ขอแค่ทำดี ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”

ไมค์- ภัทรเดช สงวนความดี

ในหลวง

“พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างของมนุษย์ที่ประเสริฐ หนึ่งในนั้นคือความกตัญญูที่ผมซาบซึ้งมาตั้งแต่เด็ก พระองค์ท่านดูแลสมเด็จย่าดีมาก ไม่เคยขาดตกบกพร่องเรื่องนี้ และเรื่องของการเสียสละ พระองค์ท่านทรงเป็นตัวอย่างของการทุ่มเทในการทรงงานอย่างจริงจัง ตั้งแต่ผมเกิดมาก็เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานและเดินทางไปทุกๆ ที่ เวลาผมไปทำงานต่างจังหวัดจะเห็นทุกโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ซึ่งล้วนแต่เพื่อประชาชนทั้งนั้น ไม่ใช่โครงการเพื่อส่วนพระองค์เลย

“พระองค์ท่านรักชาวนามาก ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าไหน หรือแม้คนที่ต่อต้านพระองค์ก็ไม่เคยเกี่ยงที่จะช่วยเหลือคนเหล่านั้น ตอนที่พระองค์ท่านไปปฎิรูปพื้นปลูกฝิ่น พวกชาวไร่ก็ไม่พอใจ พระองค์ท่านใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี เพื่อเปลี่ยนความคิดให้คนเข้าใจว่า ควรต้องปลูกพืชเกษตรแทนการปลูกฝิ่น จนทุกวันนี้เกิดเป็นอาชีพสุจริต ชาวบ้านสามารถใช้ที่ทำกินของตัวเองสร้างรายได้

“แม้ในด้านศาสนาพระองค์ก็ไม่เคยกีดกันศาสนาใดในแผ่นดิน พระองค์รักและเข้าใจให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ พระองค์ทรงรักประชาชนของพระองค์ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข นี่คือเหตุผลที่ผมมองว่าทำไมคนไทยถึงรักพระองค์ท่านจากใจจริง

“ตอนเด็กๆ สมัยมัธยมผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อสาโรจน์ เป็นคนที่รักพระเจ้าอยู่หัวมาก เขาเป็นคนปลูกฝังให้ผมรักพระองค์ท่าน สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมทำให้เราเป็นคนดีขึ้น ผมได้หันกลับมามองตัวเองว่า แล้วเราล่ะ? ทำอะไรเพื่อประเทศบ้าง ซึ่งผมมองว่า เราสามารถเริ่มจากตัวเองก่อนในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น เศรษฐกิจพอเพียง เรื่องเล็กๆ อย่างการใช้ยาสีฟันที่เคยเห็นรูปที่พระองค์ท่านทรงบีบจนไม่เหลืออะไร ถ้ามองให้ลึกกว่านั้น จะเห็นได้ว่ามันเป็นเรื่องของการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ลดการใช้พลาสติก (หลอดยาสีฟัน) ซึ่งเป็นเรื่องของส่วนรวม

ยิ่งผมเล่นละครเรื่องนายฮ้อยทมิฬ ผมยิ่งซาบซึ้งและเข้าใจถึงความลำบากของชาวนา เพราะเราเป็นคนอีสานด้วย เมื่อก่อนทุ่งกุลาแห้งแล้งมาก ในละครพูดว่า ‘วันหนึ่งพี่จะเปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งนี้ให้มีชีวิตให้ได้’ พูดไปผมยังน้ำตาไหลเลย คือรู้สึกกับสิ่งที่พูดจริงๆ นึกถึงความเพียรของพระองค์ที่ทรงทำกว่า 50 -60 ปี ทุ่งกุลาวันนี้คือทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์มาก ไม่รู้ว่าเกิดอีกกี่ชาติจะเจอพระมหากษัตริย์แบบนี้ ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่เกิดในรัชกาลที่ 9 ครับ”

บอย- ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

ในหลวง

“วันที่พระองค์จากไปความรู้สึกของผมไม่ต่างจากคนไทยทุกคนนะครับ รู้สึกได้ถึงคำว่า ‘เคว้ง’ เหมือนเสาหลักหายไป แต่ถึงแม้ท่านจะไม่อยู่แล้ว พวกเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป สิ่งสำคัญก็คือยึดแนวทางที่พระองค์ท่านทรงสอนเราไว้ หลักคำสอนของพระองค์ท่านนั้นเรียบง่ายมาก แต่ถ้ามีวินัยทำจนเป็นนิสัยมันจะดีกับชีวิตมาก โดยเฉพาะหลักคำสอนเรื่องความพอเพียง คำๆ นี้ สามารถแตกออกไปได้เป็นคำว่า ‘พอดี’ และ ‘ พอเหมาะ’ สำหรับผมเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สามารถใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิต เช่น การพูด พูดอย่างไรให้พอดี ไม่ใช่พูดไปเรื่อยๆ แบบไม่คิด ความคิด คิดมากไปก็ไม่ได้ คิดน้อยไปก็ไม่ดี ฉะนั้นคิดให้พอเหมาะ เรื่องเหล่านี้ฟังดูง่ายจนคนมักมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำเสมอมา และสิ่งที่พระองค์ท่านทรงอยากให้พวกเราทำก็คือ การเป็นคนดี …เราอาจจะทำเพื่อตัวเองมาเยอะแล้ว ลองทำเพื่อคนอื่นแบบที่พระองค์ทรงงานเพื่อประชาชนมาตลอดบ้าง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ”

ต่อ -ธนภพ ลีรัตนขจร

ในหลวง

“ผมรู้สึกว่าเรามีพระองค์ท่านอยู่ในใจตลอดเวลา คำสอนของพระองค์ท่านที่ผมอยากนำไปใช้ คือ เรื่องความพอเพียง ยึดความพอดี ไม่เยอะไม่น้อยเกินไป ทุกวันนี้ทุกคนยังเห็นธนภพไม่ติดหรู ไม่ว่าจะหาเงินได้เยอะแค่ไหน ผมก็ยังเป็นคนง่ายๆ แบบนี้ ผมคิดว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่เงิน

“ทุกวันนี้ผมตระหนักถึงสิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนในแผ่นดินไทย ผมเริ่มรู้จักการเป็นผู้ให้ และเริ่มศึกษาจากการไปทำงานกับทีมงานสุดสัปดาห์ ในโครงการคนหล่อขอทำดี ซึ่งทำให้ผมได้เห็นโครงการในพระราชดำริมากมาย ผมพบว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำไว้ให้ ไม่ใช่เพื่อพระองค์เองเลยแต่เพื่อประชาชนทั้งนั้น ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมได้รู้จักโลกมากขึ้น มุมมองก็เริ่มเปลี่ยน ผมว่าไม่ต้องถามว่าคำสอนของพระองค์ท่านให้อะไร ถ้าอยากรู้ ทำเลยครับ ผมมองไปไกลเลยว่า ถ้าผมมีครอบครัวคงจะสอนลูกๆ ในมุมที่ผมได้เห็นจากพระองค์ท่านว่าการเป็นคนดีเป็นอย่างไร การเสียสละเพื่อคนอื่นนั้นมันเติมเต็มความหมายในชีวิตได้แค่ไหน

 

สัมภาษณ์: Bhusakorn Saisuwan

ถ่ายภาพ : JAE

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up