20 นิสัยเสียสวย

Alternative Textaccount_circle
event

1

1.เผลอตัวจนเคยชิน

ไม่ว่าจะเป็นมือไวชอบเท้าคาง ลูบหน้าขยี้ตา(ขมวดคิ้วก็รวมด้วยนะ) ล้วนทําให้เกิดริ้วรอยได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ยังมีการบีบสิวที่ทําให้เกิดแผลอักเสบและริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด แถมอีกนิด นิสัยชอบเลียปากก็ควรเลิก เพราะเอนไซม์ในน้ำลายจะยิ่งทําให้ริมฝีปากแห้งมากยิ่งขึ้น

2.ติดคอมพ์

คอมพิวเตอร์สามารถปล่อยรังสียูวีเอและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทําให้เกิดกระ ฝ้า และผิวหมองคล้ำ นอกจากหลีกเลี่ยงการนั่งหน้าคอมพ์เป็นเวลานาน ยังควรนั่งห่างจากหน้าจอคอมพ์ประมาณ14-24นิ้วหรือเปลี่ยนมาใช้จอแบนแบบแอลซีดีหรือโน้ตบุ๊กแทนจะดีกว่า

3.ขาดกาแฟไม่ได้

กาเฟอีนในกาแฟจะส่งผลให้สมองส่วนควบคุมระดับน้ำของร่างกายขับน้ำมากกว่าปกติ ทําให้น้ำในเซลล์ผิวหนังมีปริมาณลดลง ผิวสาวติดกาแฟจึงมักดูแห้งและไม่เปล่งปลั่ง หากติดกาแฟก็ควรจํากัดปริมาณไม่เกินวันละ2แก้วและควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำของร่างกาย

4.ล้างไม่เคยเกลี้ยง

กูรูหลายท่านมักย้ำเสมอว่า เรายอมเสียเวลาแต่งหน้า แล้วทําไมจึงไม่ยอมสละเวลาในการล้างเครื่องสําอาง ฉะนั้นควรป้องกันปัญหาผดผื่นแพ้และสิวด้วยการใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ทําความสะอาดรอบดวงตาและริมฝีปากโดยเฉพาะเพราะเป็นส่วนที่เมคอัพติดเหนียวแน่น ล้างออกยาก จากนั้นค่อยใช้คลีนเซอร์ทําความสะอาดทั่วใบหน้าอีกครั้ง

5.ห่วงหน้า ลืมคอ

เมื่อใบหน้าเกิดริ้วรอย เราสามารถบํารุงหรือพึ่งเทคนิคทางการแพทย์ได้ แต่ลําคอซึ่งเป็นส่วนที่ติดกับใบหน้ากลับทําการศัลยกรรมได้ยากทางเดียวที่ทุกคนพิสูจน์มาแล้วว่าเวิร์คคือ กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าไม่อยากให้คอฟ้องอายุ เดี๋ยวนี้เขามีผลิตภัณฑ์เพื่อคอโดยเฉพาะกันแล้ว

6.สระผมยามค่ำ

อาจมีเสียงเถียงว่า เป่าผมให้แห้งสนิทแล้วแต่หนังศีรษะยังมีความชื้นสะสมอยู่ ทําให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะและรังแคร่วงจนไม่กล้าใส่เสื้อสีเข้ม แนะนําให้สระผมในช่วงเช้าจะปลอดภัยกับหนังศีรษะที่สุด หรือถ้าต้องการสระผมช่วงกลางคืน ควรเป่าผมให้แห้งแล้วทิ้งระยะก่อนเข้านอนอย่างน้อย3ชั่วโมง

7.จัดหนักหลายสเต็ป

ส่วนนี่ก็รักความสะอาดเกิน จําไว้ว่าทุกครั้งที่ทําความสะอาด ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื่นไปไม่น้อย ยิ่งล้างกันหลายขั้นตอนเท่าไร ผิวหน้าก็จะยิ่งแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่ายเท่านั้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวเดี๋ยวนี้พัฒนาให้สามารถล้างคราบเครื่องสําอางและสิ่งสกปรกได้อย่างง่ายดาย จึงไม่ควรทําความสะอาดผิวหน้าเกิน3ขั้นตอนพอ

8.หลงลืมครีมนวดผม

จากผลสํารวจพบว่า คนส่วนใหญ่มักใช้แชมพูทําความสะอาดผมเพียงขั้นตอนเดียวเท่านั้น แต่จริงๆแล้วครีมนวดผมมีความสําคัญต่อเส้นผมไม่แพ้แชมพูเลยทีเดียว เพราะจะช่วยฟื้นฟูและบํารุงเส้นผมให้นุ่มสลวย เสียเวลาเพิ่มอีกไม่กี่นาที แต่ผลลัพธ์ต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ ลองดูสักเดือน รับรองเห็นผล

9.ใช้สกินแคร์ผิดๆ

การใช้ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวสําหรับกลางวันกับกลางคืน ห้าม! โดยเด็ดขาด เพราะสารประกอบบางชนิด เช่น เรตินอล จะมีความไวต่อแสง จึงสามารถใช้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น หากใช้กลางวันจะทําให้ผิวระคายเคืองได้ หรือสกินแคร์สําหรับกลางวันที่มีค่าเอสพีเอฟก็ไม่ควรนํามาใช้กลางคืน เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

10.ละเลยจนแห้งกร้าน

พิสูจน์ด่วนว่า หัวเข่าข้อศอก ส้นเท้า หน้าแข้งผิวแห้งกร้านมากหรือเปล่าหากลูบไล้แล้วสะดุดมือส่องกระจกแล้วสะดุดตา(ในทางร้าย) ก็ต้องขยันทาโลชั่นบํารุงผิวกายให้ทั่วเรือนร่าง โดยเน้นที่จุดแห้งกร้านดังกล่าวให้มาก

11.มักน้อยเกินเหตุ

การประหยัดเป็นสิ่งดี แต่หากใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณน้อยเกินไปก็จะไม่ได้ผลแน่นอนทางที่ดีควรศึกษาหรือสอบถามจากพนักงานขายว่าควรใช้ปริมาณเท่าไรถึงจะเหมาะสม

12.ขี้เกียจล้างเล็บ

แต่งหน้าแต่งตัวเต็มเหนี่ยว แต่ตกม้าตายที่ปลายเล็บสีลอกกระดํากระด่าง ชวนให้ผู้พบเห็นหงุดหงิด อีกทั้งการทิ้งยาทาเล็บบนปลายนิ้วนานเกิน1สัปดาห์จะทําให้เล็บเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทางที่ดีควรพักทําความสะอาด ให้เล็บได้หายใจบ้างสัปดาห์ละครั้ง

13.ปลอม ปลอม ปลอม

เดี๋ยวนี้ในอินเทอร์เน็ตมีผลิตภัณฑ์บิวตี้ให้เลือกสั่งซื้อมากมาย สาวๆควรเลือกผู้ขายที่น่าเชื่อถือ อย่าไปหวังว่าของยิ่งถูกยิ่งคุ้มเดี๋ยวจะกลายเป็นได้ของปลอมไปแทนนอกจากนี้ยังต้องควรระวังผลิตภัณฑ์แบ่งขายเพราะเป็นไปได้ว่าจะเจอของปลอม หรือถึงเป็นของจริง เมื่อผลิตภัณฑ์สัมผัสอากาศแล้วก็จะมีอายุการใช้งานอย่างจํากัดด้วย

14.เชิดใส่ครีมกันแดด

เป็นเรื่องที่พร่ำบอกกันอยู่ตลอดว่า รังสียูวีจากแสงแดดก่อให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดําได้ง่าย แนะนําให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบาซึมซาบง่าย จะช่วยให้ไม่รู้สึกหนักหน้าหรือรําคาญใจ เพราะ“ยังไงก็ต้องใช้!!!”

15.ขี้เหนียวหรือเลินเล่อ

ผลิตภัณฑ์หมดอายุไปตั้งนานแล้ว แต่ยังเสียดายไม่ยอมทิ้ง หรือบางทีก็ใช้เพราะความไม่รู้ ไม่เคยดูฉลากสักที แบบนี้นอกจากจะได้ประสิทธิภาพที่ไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วยนะ ขอย้ำ ที่ฉลากจะมีวันที่หมดอายุหรือสัญลักษณ์ว่าสามารถใช้ได้นานแค่ไหนหลังจากเปิดใช้แล้ว หรือหากเนื้อและกลิ่นของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป แบบนี้ต้องลงถังขยะสถานเดียว!

16.อุปกรณ์ไม่โปร

ไม่ว่าจะเป็นแปรงแต่งหน้า พัฟฟ์ฟองน้ำและแปรงหวีผม เป็นสิ่งสัมผัสกับผิวเราโดยตรงจึงไม่ควรให้มีสิ่งสกปรกหรือคราบเมคอัพตกค้างเพราะอาจก่อให้เกิดสิวหรือการระคายเคืองผิวหนังได้ง่าย ทางที่ดียกไปทําความสะอาดยกเซตอย่างน้อยทุกๆ2สัปดาห์ดีกว่านะ

17.หวานเจี๊ยบ

น้ำตาลเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการทําลายอีลาสตินและคอลลาเจนในผิว ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นยุบตัว จึงมองเห็นเป็นริ้วรอยจากภายนอก สาวๆจึงควรควบคุมไม่รับประทานน้ำตาลมากเกินไป(น้ำตาลไม่เกินวันละ6ช้อนชา) และออกกําลังกายเป็นประจําอย่างน้อย3ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อเผาผลาญน้ำตาล

18.ขยันขัดเพราะอยากขาว

หลายคนเชื่อว่าการขัดผิวทุกวันจะช่วยให้ผิวขาวขึ้น แต่จริงๆแล้วการขัดผิวเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ผิวจึงดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งหากขัดบ่อยเกินไปจะกลับเป็นผลเสียให้ผิวเกิดริ้วรอยแห้งกร้าน และระคายเคือง สาวผิวธรรมดาผิวมัน และผิวผสมควรขัดผิวสัปดาห์ละครั้งส่วนสาวผิวแห้งขัดผิวทุกๆ10-14วันจะดีกว่า

19.“รีบ” ไปหมด

การทาครีมบํารุงผิวควรค่อยๆลูบไล้ให้ครีมซึมซาบลงสู่ผิวอย่างเบามือ ไม่ถูอย่างรุนแรงหรือทาลวกๆให้เร็วเข้าว่าชนิดเนื้อครีมยังติดเป็นก้อนอยู่บนใบหน้า อย่างนี้ทาไปก็เสียแรงเปล่านะจ๊ะ

20.ชอบความรุนแรง

แม้ยังไม่ได้เป็นซาดิสม์ แต่พฤติกรรมล้างและเช็ดหน้าอย่างรุนแรงคือตัวการทําลายผิวหน้าอย่างดี ทําให้เวลาบํารุงผิวเท่าไรก็ไม่เวิร์คเสียทีรู้อย่างนี้ขอให้(ล้าง-เช็ด)เบามือด่วน

เรียบเรียง : Pitchaya/Photo : Getty Images

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up